Haynes ฟลูทระดับตำนาน จากสหรัฐอเมริกา

  

ประวัติบริษัทเฮนส์ (Haynes Flute History)

 

ฟลูทเฮนส์ ฟลูทระดับโลกมาพร้อมกับประวัติศาสตร์ 125 ปีของบริษัท ถือเป็นมาตราฐานของคุณภาพของฟลูทยี่ห้อนี้

ด้วยประวัติที่ยาวนาน ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งประดิษฐ์ของฟลูทยี่ห้อนี้ได้กลายมาเป็นมาตราฐานของฟลูทยี่ห้ออื่นๆ อีกหลายยี่ห้อในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น การทำ Drawn Tone Hole, การปรับรูปร่างและขนาดของ Lip Plate และ Riser,  การทำ Y-Arm ซึ่งถือว่าเป็นมาตราฐานสำหรับฟลูทระดับมืออาชีพ จากบริษัทฟลูทที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นฟลูทยี่ห้อที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและถือว่าเป็นบริษัทผลิตฟลูทแรกของสหรัฐอเมริกา โดยที่บริษัทเฮนส์ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1888 โดยผู้ก่อนตั้งคือ วิลเลี่ยม เอส เฮนส์ (William S. Haynes) (1864-1939) คุณวิลเลี่ยมดฮนส์เป็นบุตรของกัปตันเรือและครูสอนหนังสืออาศัยอยู่และเติบโตที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เค้าเป็นช่างทำเครื่องเงินที่มีฝีมือ ในช่วงแรกบริษัทนี้เป็นธุรกิจแบบครอบครัวที่ได้รับความสำเร็จอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆให้กับเครื่องดนตรีฟลูทจึงทำให้มีบริษัทอื่นๆอีกมากมายที่เกิดขึ้นภายหลังเลียนแบบนวัตกรรมเหล่านั้น และท้ายที่สุดกลายมาเป็นมาตราฐานในการผลิตฟลูทในปัจจุบัน

 

ในปี ค.ศ. 1898 จอร์จ เฮนส์ (George Haynes) เป็นผู้ค้นคิด โทนโฮลที่เรียกว่า ดรอนโทรโฮล (Drawn Tone Hole) เป็นการที่ทำให้รูเสียงของฟลูทเป็นเนื้อเดียวกับท่อฟลูท ด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษดึงเนื้อโลหะขี้นมาให้เป็นท่อโทนโฮล

 

ในช่วงปี ค.ศ. 1918-1920 เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับบริษัทเฮนส์ และถือเป็นจัดเปลี่ยนสำหรับวงการฟลูทเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนจากการใช้ฟลูทไม้มาเป็นฟลูทโลหะ เมื่อ คุณจอร์จ บาเรย์ (George Barrere) นักฟลูทผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งในยุคนั้น ผู้ซึ่งเป็น the New York Symhony Principal Flutist (ภายหลังกลายเป็นวง New York Philharmonic) มาร่วมทำงานกับ วิลเลี่ยม เฮนส์ ในตำแหน่งศิลปินประจำ ทั้งคู่ได้ออกแบบและผลิตฟลูทที่ถือว่าเป็นฟลูทอเมริกันโมเดล ที่เลียนแบบฝรั่งเศสได้สำเร็จ โดยที่ในครั้งแรกมีการทำ Y-Arm ให้กับคีย์และภายหลังสามารถผลิตคีย์ที่เป็น Pointed Key Cup ได้สำเร็จ

 

บริษัทเฮนส์ได้เปิดตัวฟลูท โมเดลที่มีโทนโฮลแบบบัดกรี (Solder Tone Hole)  และบริษัทเฮนส์มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก มีหลายๆบริษัทได้ทำการลอกเลียนแบบการออกแบบฟลูทของเฮนส์ทั้งในด้านเสียงและแมคคานิกส์ นักฟลูทชื่อดังในยุคนั้นหลายท่านใช้ฟลูทยี่ห้อเฮนส์ ยกตัวอย่างเช่น Barreere (New York Symphony), William Kincaid (Philadelphia Orchestra), Laurent (Boston Symphony), Wummer (New York Philharmonic)

 

ในปี ค.ศ.1935 บริษัทเฮนส์ผลิตฟลูทที่ทำจากพลาตินั่มเป็นครั้งแรก โดยเพลง Density 21.5 ที่แต่งโดย เอ็ดก้า วาเรส (Edgar Varese) ที่แต่งให้กับ จอร์จ บาเรย์ ผู้ผันตัวกลายมาเป็นนักแสดงเดี่ยว โดยที่ลักษณะพิเศษของเพลงนี้ก็คือ เป็นการแต่งเพลงให้กับฟลูทที่ทำด้วยพลาตินั่มจากบริษัทเฮนส์ คำว่า Density  21.5 หมายความถึงความหนาแน่นของโลหะประเภทพลาตินั่มนั่นเอง ซึ่งโลหะประเภทนี้มีมูลค่ามากกว่าทองคำ และมีความหนาแน่นมากกว่าทองคำด้วย

 

ในปี ค.ศ. 1941 คุณหลุยส์ เดวิล (Lewis Deveau) เข้าร่วมทำงานกับบริษัทเฮนส์ คุณหลุยส์ ได้กลายเป็น เจ้าของและประธานของบริษัทเฮนส์ หลังจากที่ คุณโลลา เฮนส์ (Lola Haynes) เสียชีวิตไปแล้ว ในปี ค.ศ. 1967

 

ในปี ค.ศ. 1957 คุณฟิลิปป์ คาแพลน (Phillip Kaplan) นักฟลูทวง Boston Symphony และ Boston Pops Orchestra ได้รับแต่งตั้งให้เป็นศิลปินให้กับบริษัทเฮนส์

 

ในปี ค.ศ. 1958 คุณโลลา เฮนส์ (Lola Haynes) และ คุณฟิลลิปป์ คาแพลนได้แนะนำให้ชอง ปิแอร์ รัมพาล (Jean-Pierre Rampal) มาแสดงคอนเสิร์ทที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ที่ the Library of Congress in Washington DC. โดยเพลงที่เล่นคือ โซนาต้าที่แต่งโดย ฟรานซิส พูลอง (Francis Poulenc)  รัมพาลได้ขอให้เฮนส์ก็อปปี้ฟลูทของเขาที่ทำโดย คุณหลุยส์ ล็อต (Louis Lot) ซึ่งถือว่าเป็นนักผลิตฟลูทชั้นนำในสมัยนั้นจากประเทศฝรั่งเศส โดยที่เฮนส์ไม่ได้เพียงแต่ก็อปปี้ฟลูทแต่ว่าทำให้คีย์ทำงานได้ดีขึ้น พัฒนาให้สเกลดีขึ้น และนี่เป็นการพัฒนาฟลูทเฮนส์ตัวแรกให้ รัมพาล และทำให้เกิดฟลูททองตัวแรกของ ชอง ปิแอร์ รัมพาล โดยมีลักษณะเป็น 14K Yellow Gold with C foot joint, Open Hole, Thin Wall serial number 29333 ซึ่งในขณะนั้นฟลูทตัวนี้ราคา $1,400 และฟลูทตัวนี้เป็นหนึ่งในสี่ที่รัมพาลได้ซื้อจากบริษัทเฮนส์ ถือว่ารัมพาลเป็นนักฟลูทระดับตำนานที่เลือกใช้ฟลูทเฮนส์

 

ในช่วงปี ค.ศ. 1960-1970 บริษัทเฮนส์ได้ผลิตฟลูทกว่าปีละ 1,000 ตัว และ นักฟลูทระดับตำนานอีกท่านหนึ่ง คือมิเชล ดีโบ (Michel Debost) ได้เลือกฟลูทเฮนส์เป็นฟลูทคู่ใจ อีกคนหนึ่ง

 

ในปี ค.ศ. 1981 เฮนส์ได้พัฒนา สเกลของฟลูทใหม่ ด้วยการพัฒนาสเกลใหม่ให้กับฟลูทที่มีการเทียบเสียงให้ A=440 Hz และภายหลังได้พัฒนาจนกลายเป็นฟลูทที่มีการเทียบเสียงให้ A=442 Hz ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการค้นคิด เพื่อพัฒนา Head Joint ด้วยการปรับเปลี่ยนความสูงของ Riser, การทำ Over-cutting, under-cutting และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Lip-Plate ทำให้เป็นการสิ้นสุด Head Joint แบบ ดั้งเดิม

ช่วงปี ค.ศ. 1995-2004 คุณ จอห์น ฟูเก็ตต้า ได้เป็นประธานของบริษัทเฮนส์ จนกระทั่งเสียชีวิต

ในปี ค.ศ. 2004 บริษัท อีสแมน มิวสิค คัมปานี (Easeman Music Company) ได้ซื้อบริษัทเฮนส์ โดยที่นักมีฟลูทจากประเทศจีน คุณเกวียน นี่ (Qian Ni) เป็นผู้ซื้อไว้

ในปี ค.ศ. 2009 เซอร์ เจมส์ กัลเวย์ (Sir James Galway) ได้เยี่ยมชมบริษัทเฮนส์ และได้ซื้อฟลูท 19.5K Rose Gold ไว้ครอบครอง และได้นำฟลูทตัวนี้ไปเล่นแสดงกับวง Boston Symphony ในคอนเสิร์ทวันเดียวกันกับที่ซื้อฟลูทตัวนี้

ในปัจจุบัน เฮนส์ มีพนักงานที่มีฝีมือที่ได้รับการคัดเลือกให้มาทำงานด้วย ทุกคนเน้นเรื่องคุณภาพของเสียง มีพลัง ยืดหยุ่น มีสีสันของเสียงมากมาย ที่มีลักษณะประดุจใยไหมและมี articulation ที่ชัดเจนประดุจไข่มุก

 

Haynes

 


  • 4-Haynes-logo---Horizontal-3.jpg
    Sterling silver Haynes Classic headjoint – from the Haynes Boston workshopSterling silver body, footjoint, and mechanismDrawn toneholes with soldered C# toneholeOffset or inline G ...
Visitors: 160,353