ทำไม คลาริเน็ต (Clarinets) ถึงเป็นเครื่องที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

.

โดยปกติแล้วเครื่องดนตรีประเภท คลาริเน็ต (Clarinet) เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ยังคงคอนเซปของการเป็น "เครื่องลมไม้" (Woodwind instrument) อยู่ ในขณะที่เครื่องดนตรีในตระกูลเดียวกันอย่างฟลุต (Flute) หรือ รีคอร์เดอร์ (Recorder) ถูกนำไปปรับแต่งและผสมเข้ากับวัสดุอื่น ๆ เช่น พลาสติก เงิน ทองแดง หรือแม้กระทั่งทอง จนทำให้การทำเครื่องดนตรีชิ้นนี้จากไม้หรือกระดูกสัตว์ไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป

.

ในทางกลับกัน เครื่องดนตรีประเภท Clarinet ยังคงถูกนิยมผลิตขึ้นโดยวัสดุหลักเป็นไม้ อาทิ Cocuswood, Grenadilla wood หรือ Mozambique Ebony เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้วัสดุประเภทไม้นี้เองทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ต้องการความละเอียดอ่อนและความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ใช้ควรจะรู้จักปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากวัสดุประเภทไม้
.
อย่างแรกเลย คือ การเจอกับสภาพอากาศที่แห้ง ซึ่งเป็นอากาศที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ปัญหาที่เกิดจากอากาศแห้งนั้นสามารถทำให้ไม้หดตัวลงและอาจทำให้เกิดการแตกหักภายในตัวเครื่องของตัวคลาริเน็ต ซึ่งมีผลกับเสียงและศักยภาพการทำงานของเครื่องดนตรี เป็นหนึ่งในปัญหาที่ต้องได้รับการซ่อมแซมและดูแลเป็นพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำมัน เนื่องจากอากาศที่แห้งน้องคลาริเน็ตนั้นค่อนข้างจะหิวน้ำมันเป็นอย่างมาก การปล่อยปละละเลยเรื่องการทาน้ำมันจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราต้องเสียค่าซ่อมหนักกว่าเดิม เพื่อนซี้ของอากาศแห้งอย่างอากาศชื้น ก็สงผลกับตัวน้องคลาริเน็ตได้เหมือนกัน เพราะความชื้นนั้นจะส่งผลให้ตัวไม้นั้นเกิดอาการบวม และหากผู้ใช้ปล่อยเครื่องทิ้งไว้นานโดยไม่ได้ดูแลอย่างสม่ำเสมอ ยังมีโอกาสที่น้องรา (mold) และน้องราน้ำค้าง (mildew) จะแวะมาเยี่ยมเยียนอีกด้วย